Featured

    Featured Posts

    Social Icons

Loading...

วัดธรรมกายสอนชัด! ทำบุญมากๆ ก็รวยมากๆ


หลังจากไปส่องกระทู้  ในห้องศาสนาของ Pantip
รู้สึกเหมือนนั่งอยู่ท่ามกลางสมรภูมิที่
รบพุ่งกัน ด้วยอาวุธทางความคิด
ที่มีทั้งอคติ และเหตุผล ไฝว้กันละมุนอยู่ในที่นั้น
กิ่งแง่งความคิดอาจดูแตกต่าง
แต่แก่นแท้ในใจนั้น ก็ยังเป็นชาวพุทธ
ที่นับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน

จากการไปส่องในครั้งนี้ เลยมีของแถมหรูๆ
มาประดับความคิด ด้วยปุจฉา
อันไม่ฉาบทาอคติของสมาชิกท่านหนึ่ง
ที่ถามว่า..

คำถามที่ 1 อยากรวย ต้องทำบุญมากๆ
วัดธรรมกายสอนอย่างนี้จริงไหมคะ ?


จะทำความเข้าใจเรื่องทำบุญของวัด ต้องเข้าใจการสร้าง
บารมีแบบที่วัดสอนก่อนครับ


ตั้งแต่เข้าวัดมา หลวงพ่อจะสอนเรื่อง
“ทำบุญว่าให้ทำตามแบบอย่างที่พระพุทธเจ้าทำ”
หมายถึงทำแบบที่ท่านทำก่อน
จะมาตรัสรู้ (สมัยเป็นพระโพธิสัตว์สร้างบารมีอยู่)
หลวงพ่อสอนว่า ท่านทำอย่างไรเราทำอย่างนั้น
ท่านก้าวขวาเราก็ขวาตาม ท่านก้าวซ้ายเราก็ซ้ายตาม
เพราะเราก็อยากหมดกิเลสเหมือนท่าน

เหมือนกัน ถ้าไม่ทำแบบท่าน แล้วเมื่อไหร่มันจะหมดกิเลสได้

วัดนี้จึงมักจะเอาเรื่องบารมี 10 มาสอนเยอะ
ส่วนหลักในการทำบุญก็ตามที่พระพุทธเจ้าสอน
ว่าทำอย่างไรได้บุญมาก เราก็ทำตามนั้น
จะเน้นทำกับเนื้อนาบุญคือ พระสงฆ์มากเป็นพิเศษ
เรื่องนี้คุณคงเห็นแล้ว ส่วนการสงเคราะห์โลกเราก็ทำด้วย
เพราะอยู่ร่วมโลกกัน ใครเดือดร้อนก็ต้องช่วยกันไป
และให้เอาพระโพธิสัตว์เป็นแบบ

ถ้าคุณได้ศึกษามาคุณจะรู้ว่าพระโพธิสัตว์จะทำบุญแบบ
ทุ่มเทมาก ไม่เหมือนที่คนไทยคุ้น


ตรงนี้ผมไม่ทราบว่าทำไม พระท่านไม่ค่อยสอนว่าพระ
โพธิสัตว์ทุ่มเทสร้างบารมีมาอย่างไร
ผมเกิดมาก็คุ้นกับคำว่า ทำบุญไปตามศรัทธา
น้อยหรือมากก็ไม่สำคัญ ซึ่งผมรู้สึกว่ามัน
ยถากรรมมากเกินไป



หลวงพ่อจึงสอนว่า “ให้ทำบุญให้เต็มกำลัง”
หมายถึงเต็มที่ของเราได้เท่าไหร่ เอาเท่านั้น
อย่าให้ตัวเองหรือครอบครัวเดือดร้อน
และอย่าให้คนอื่นเดือดร้อน
(เช่นกู้ยืมเขามาทำบุญ – ยกเว้นมีเงินพร้อมใช้คืนอยู่แล้ว)
มีคนบางคนเหมือนกันที่ทำบุญเกินตัวแต่เป็นส่วนน้อยครับ
ส่วนใหญ่คนวัดรู้ว่าทำประมาณไหนดี การทำแบบเต็มกำลัง   
วัดไม่ได้ปล่อยตามยถากรรมครับ วัดก็ฉลาดที่จะสอนด้วย   
(อันนี้ผมสังเกตเองนะ)


อย่างตอนผมเข้าวัดครั้งแรกยังเรียนอยู่ ม.5
ผมทำบุญได้หลักร้อยบาทครับ แต่เมื่อมาวัดนานเข้า
วัดจะสอนและทำให้เราอยากทำตามด้วย
อีก 2 เรื่อง คือถือศีลกับนั่งสมาธิ

2 เรื่องนี้ครับทำแรกๆ ไม่รู้ครับว่ามันจะเกิดอะไร
แต่ยิ่งทำนานไปโดยเฉพาะศีล...หนุ่มๆ นี่ละครับ
บางวันรักษาศีล 8 ด้วยซ้ำ เพราะศีลนี่แหละ
ทำให้ไม่อยากไปเที่ยวเตร่เฮฮา เพราะมันมีพวกเหล้าบุหรี่
อะไรที่เราไม่แตะอยู่แล้วก็หลีกเลี่ยง



ส่วน สมาธิ ทำให้มีความสุขใจ มันไม่ค่อยโหยหาอยากได้
อะไรเกินตัว อยู่บ้านนั่งเงียบ ๆ ก็มีความสุขได้แล้ว
พี่สาวผม ไม่ชอบเสียเงินไปกับเครื่องสำอาง
เพราะแบบนี้เหมือนกัน ตังค์เหลือเยอะเลยครับ
เฉพาะ 2 เรื่องนี้ครับ ผมมาเห็นผลตอนทำงานแล้ว
พบว่าผมมีเงินเก็บต่อเดือนเหลือเยอะมาก
(เมื่อเทียบกับคนอื่น) และผมสามารถคำนวณได้ว่า
ผมจะบริหารเงินอย่างไร ผมมีเงินทำบุญได้มากเลยครับ      
ทำเป็นพันเป็นหมื่นนี่สบาย ถ้าจะทำนะครับ


และเพราะถูกฝึกให้ทำตั้งแต่เด็ก หลักร้อยทำบ่อยๆ
ก็หลักพัน นานไปก็หมื่น เดี๋ยวนี้ก็... 555
ประมาณนี้ละครับ มันไม่เสียดาย แถมเรารู้ด้วยว่า
วัดเอาไปทำประโยชน์อะไร เรายิ่งดีใจก็ทำสนุกเลย
(กว่าจะมาทำเยอะขนาดนี้ ผมฝึกนานครับจนคุ้น
กับการทำเยอะโดยไม่เสียดาย)
ทีนี้ทำบุญ (หมายถึงให้ทาน) พระพุทธเจ้าตรัสว่า
จะทำให้เกิดโภคทรัพย์สมบัติ แปลภาษาง่ายๆ
ว่า “รวย” นั่นแหละครับ

เวลามีคนถามว่า ทำไมต้องรวย ด้วย หลวงพ่อจะขำๆ
แล้วตอบว่า ก็ไปลองจนดูสิ



ทีนี้ทำมากจะรวยจริงไหม ตรงนี้จริงครับ
แต่ก็มีเงื่อนไขด้วย ไม่ได้จริงทุกกรณีไป
 (แต่คนวัดก็เฮฮาไปเวลาพูดว่ารวย
เพราะเขาก็รู้ว่าบุญมันไม่ได้ส่งผลกันทันใจขนาดนั้น
ชาตินี้ไม่รวย ชาติหน้าก็ได้ ไม่รีบ 555)

เอาตามพระพุทธเจ้าสอนนะครับ คือถ้า
1. เงินเราหามาด้วยสัมมาอาชีวะ
2. เจตนาทำเราบริสุทธิ์ หวังเอาบุญ
3. ทำกับเนื้อนาบุญ คือพระสงฆ์ที่ท่านเป็นพระที่ดี
อย่างนี้บุญมากครับ

ขาดตัวใดตัวหนึ่งไปก็ลดหย่อนลงมา
(ที่ทำมากอาจไม่ได้บุญมาก ก็เพราะขาดตัวใดหรือหลายตัว)
เช่น คนทำบุญมากแต่ทำกับคนไม่มีศีล
บุญได้ไม่มากนัก บางทีสู้ทำน้อยกว่า
แต่ทำกับสงฆ์ไม่ได้ภาพทำบุญกับพระ

 ถ้าคน 2 คนทำบุญในเงื่อนไข 3 ข้อข้างบน
เหมือนกันเป๊ะ! คนทำมากกว่าย่อมเกิดบุญมากกว่า
เพราะทรัพย์ที่มากกว่า ทำให้เกิดประโยชน์มากกว่าครับ
 คิดง่าย ๆ ซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านเดียวกัน 30 บาท        
กับ 50 บาท ย่อมได้ไม่เท่ากัน

"ทำบุญมากก็เกิดประโยชน์กับพระศาสนามาก"



เช่น มีพระ 5 องค์ คนหนึ่งตักบาตรให้ 2 องค์
อีกคนตักให้ 5 องค์ พระ 5 องค์ ท่านอิ่มแล้วไปปฏิบัติธรรม
ไปสอนชาวบ้านต่อ เราได้บุญมากกว่าพระ 2 องค์อยู่แล้วครับ

เมื่อกำลังบุญมาก เมื่อเกิดภพชาติใด ย่อมได้โภคทรัพย์มาก
มันก็เป็นเหตุเป็นผลกันตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอนครับ แต่
อย่าลืม “ทำให้เต็มกำลัง”

 แต่อย่าให้เดือดร้อนตัวเองและคนอื่น
ตอบแค่นี้ก่อนนะครับ ชักจะยาว ข้ออื่นเดี๋ยวค่อยมาตอบใหม่..

Cr.Neocitran

ยังเหลือคำถามที่น่าสนใจแล้วก็น่าจะเป็นความ
สงสัยของคนที่ไม่เข้าใจอีกมากมายอย่าง
เช่น ทำบุญแล้วอธิษฐานเป็นการหว่านพืชหวังผลหรือเปล่า?
แล้วจะได้บุญตรงไหน?
ติดตามกันในบล็อคหน้านะคะ

ติดตามกระทู้ของ Neocitran–Pantip Link :
http://pantip.com/profile/2932812
author

This post was written by: Author Name

Your description comes here!

Get Free Email Updates to your Inbox!

7 ความคิดเห็น

ดีจ่งเลยค่ะ..อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

Reply

อธิบายได้ชัดเจนมาก อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ

Reply

ชอบคำตอบคุณมากเลยค่ะอ่านแล้วเข้าใจง่ายมีเหตุมีผลในตัวมันเอง

Reply

ชอบคำตอบคุณมากเลยค่ะอ่านแล้วเข้าใจง่ายมีเหตุมีผลในตัวมันเอง

Reply

เยี่ยมเลยครับ ทำให้คนที่สงสัยจะได้เข้าใจ แจ่มแจ้ง มองได้ มองได้ทะลุปรุโปร่งเลย ครับ....

Reply
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

Reply

แสดงความคิดเห็น

CodeNirvana
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

โพสต์แนะนำ

กรณีธรรมกาย พลังมวลแห่งศรัทธา คุณค่าของความเชื่อ

. . เมื่อคน หรือพระทะเลาะกัน จะเป็นผู้แพ้ หรือผู้ชนะ ย่อมมีความอ่อนแอ ซุกซ่อนอยู่เสมอ แล้วแพ้หรือชนะจะมีค่าอะไร . .  . . กรณีธรรมกา...

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

รายการบล็อกของฉัน

Blogger templates

Video Of Day

About us

About

Posts

บทความที่ได้รับความนิยม

© Copyright วัดพระธรรมกาย UNSEEN !
Back To Top